THINK LIKE A PRO : Clinical Reasoning Perspective
- G.Gram

- Aug 15
- 1 min read

✅ Think like a pro, Improving your clinical reasoning
🧠 เพิ่มคุณภาพการตรวจรักษา จากระบบความคิด การให้เหตุผลทางคลินิก
.
#Storytime ถึง Physio ทุกท่าน
“ต่อให้มีดาบที่คมที่สุดก็อาจจะยังแพ้ยอดฝีมือที่ใช้มือเปล่า” Clinical reasoning คือทักษะพื้นฐานที่นักกายภาพ หลายคนควรต้องมีติดตัว เป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาตรวจคนไข้ก่อนที่จะเริ่มลงมือทำการรักษาเพื่อให้ผลออกมาดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยการจะพัฒนาทักษะนี้ ต้องอาศัยการฝึกฝนและประสบการณ์เป็นปีๆ
.
ในบทความนี้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่คุณหลงเข้ามาอ่าน แต่เป็นเพราะคุณอยากจะ ปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่างสำหรับการทำเคสของตัวเอง l มาดูกันว่า 3 หัวข้อย่อย ที่เป็นส่วนหนึ่งของคอร์ส Clinical Optimization จะทำให้คุณพัฒนาความคิดตัวเองยังไงได้บ้าง ติดตามในรูปต่อๆไปได้เลยครับ ❤️
———
🆙 คอร์ส Clinical Optimization : Assessment & Exercise เป็นหนึ่งในคอร์สที่ผมแนะนำสำหรับคุณ ไม่ว่าคุณจะใช้ทักษะอะไร หรือ เครื่องมือชิ้นไหนก็ตาม การเรียนครอสนี้จะช่วยให้คุณทำเคส ได้ดีมากขึ้นครับ
.
หากใครสนใจจะลงทะเบียนเรียนคอร์สเต็ม Clinical Optimization มาพบกัน
🗓วันอา.ที่ 19 และ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568
เวลา 09.00 – 16.30 น. ผ่าน Zoom Meeting
.
✳️ราคา 1,980 บาท l ▶️ PTCEU= ประมาณ 12 คะแนน
✅ มีใบ Certificate และคลิปสอน ดูย้อนหลังได้ไม่จำกัดเวลาด้วยนะครับ ❤️
.
📌สนใจเชิญสมัครทางลิ้งค์นี้📌
.
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : https://lin.ee/XVwopXV นะครับ
ดูรายละเอียดเต็มได้ที่ : https://rebrand.ly/q4y8gma

✅ History Taking System
ซักประวัติอย่างเป็นระบบ ทำให้เข้าใจปัญหาของเคส
.
ขั้นตอนแรกที่สำคัญในการรักษาเคสคนไข้ คือการซักประวัติ ในหลายๆครั้งเราอาจจะไม่พบต้นต่ออย่างที่ชัดเจน นั้นอาจจะเป็นเพราะเรามีวิธีการถามที่ยังไม่เป็นระบบและตรงจุดมากเพียงพอ เมื่อเรารู้วิธีการจัดระเบียบ เรียบเรียงข้อมูลจะช่วยให้เราหาสร้างสมมุติฐาน และวางแผนการรักษาได้ดีขึ้น l ผมแนะนำ 8️⃣ หมวดคำถามที่ควรได้ข้อมูลจากเคส ➡️ ความสำคัญของแต่ละหมวดคำถาม
.
⭐️ สามารถเรียงลำดับการซักประวัติได้ ดังนี้ :
🅰️Chief Complaint ➡️ ปัญหาหลักที่เคสเข้ามาพบ
🅰️Aggravating / Easing sign ➡️ ใช้สำหรับการตรวจประเมินผลการรักษาก่อนหลัง
🅰️History ➡️ ประวัติปัจจุบัน ของอาการครั้งนี้
🅰️Past history ➡️ ประวัติอดีตที่อาจมีผลกับปัจจุบัน.
🅱️X-Ray / MRI result ➡️ ผลการตรวจพิเศษ และความเห็นแพทย์
🅱️Previous treatment ➡️ พิจารณารักษาที่เคยได้รับ และ ผลลัพธ์
🅱️Exercises / Workout ➡️ ดูการใช้กล้ามเนื้อ และทักษะการเคลื่อนไหว
🅱️Related Activity ➡️ กิจกรรมต่างๆที่มีผลต่ออาการ
.
หมายเหตุ 🅰️ เป็นข้อมูลที่ “มี” ควรรู้ในการแรกรับเคสใหม่ทุกครั้ง
🅱️ เป็นข้อมูลที่อาจจะ “ไม่มี” สำหรับในบางเคสได้
.
#คำแนะนำ หากเจอข้อมูลในหมวดไหนที่เป็นประโยชน์ หรือ Support ในการตั้งสมมุติฐาน สามารถถามเพื่อเจาะลึกข้อมูลเพิ่มเติมได้
.
📌สนใจเชิญสมัครทางลิ้งค์นี้ https://forms.gle/mLyWghsPmWjPtzf68
ℹ️ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : https://lin.ee/XVwopXV

✅ Body Chart Ideas
เข้าใจความเจ็บของผู้ป่วยให้มากกว่าที่เคยเป็น
.
ในการเก็บข้อมูลเคส เรามักจะมองหา 2 อย่างหลักๆ 1️⃣ อาการแสดง (Sign) ที่ได้จากการสังเกตเคส (Observation base)2️⃣ อาการ (Symptom) ที่ได้จากการสื่อสาร กับเคส (Communication base)
.
👉 Ideas ที่จะทำให้คุณระบุกล้ามเนื้อ / โครงสร้างได้แม่นยำมากขึ้นผ่าน Body Chart ของเคส นั้นก็คือ “การให้เคสเป็นคนระบายบริเวณที่ปวดเอง” l เพราะไม่มีใครเข้าใจ อาการความไม่สบาย ความเจ็บปวด หรือ บริเวณความกว้าง ได้ดีเท่ากับตัวเคสเอง l การทำแบบนี้ เราจะได้แผนภาพแสดงอาการที่แม่นยำมากกว่าการเป็นคนระบายบริเวณบาดเจ็บให้กับเคสด้วยตัวเอง
.
ℹ️ หากคุณมีความรู้ ความชำนาญเกี่ยวกับเรื่อง
Referral pain pattern
Anatomy Sling
Kinematics linkage
Myofascial line
ก็จะยิ่งช่วยทำให้เราเชื่อมโยงและเข้าใจอาการของเคสได้ดีขึ้น l ซึ่งแน่นอนเราเตรียมเนื้อหามาสอนคุณอย่างเข้มข้น ในคอร์สนี้เรียบร้อยแล้ว
.
👍 ในครั้งถัดไปเมื่อคุณพบกับเคสของคุณ ลองนำไอเดียนี้ปรับมุมมองเล็กๆในการสื่อสารกับเคส คุณจะเข้าใจอาการที่เขารู้สึกอยู่มากขึ้น และนั้นอาจจะทำให้การตรวจ การวางแผนการรักษาของเราตรงจุดมากขึ้น พัฒนาคุณภาพการตรวจรักษา ให้ดีขึ้นไปอีกขั้นได้ครับ
.
📌สนใจเชิญสมัครทางลิ้งค์นี้ https://forms.gle/mLyWghsPmWjPtzf68
ℹ️ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : https://lin.ee/XVwopXV

✅ Mechanism of injuries
เข้าใจกระบวนการเกิดโรคและอาการของเคส อย่างแท้จริง
.
สิ่งนี้เปรียบเหมือนบทสรุป อาการของเคสที่เราได้มากจากการซักประวัติ และ การตรวจร่างกายอย่างละเอียด l เป็นสิ่งที่เราใช้ตอบตัวเอง ว่าการรักษาแบบนี้เราทำไปแล้วทำไมถึงดีขึ้น และ ใช้อธิบายให้เคสเข้าใจถึงต้นตอ สาเหตุการบาดเจ็บครั้งนี้ได้อย่างเข้าใจ
.
⚡️ทักษะนี้ไม่เรื่องง่าย l เชื่อว่าคุณมีประสบการณ์ทำเคส “ที่รู้สึกยาก รู้สึกว่ารักษาไปแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น” อะไรทำให้เคสนี้ถึงแตกต่างกับเคสก่อนๆที่เราทำ ทั้งที่การตรวจการรักษาของเรามันเคยได้ผลกับเคสแนวนี้มาตลอด?
.
👍 ข่าวดีคือสิ่งที่คุณเจออยู่ไม่ใช่เรื่องแปลก ในชีวิตการทำเคสของเรามีโอกาสเจออาการบาดเจ็บที่หลากหลาย และมีความยากง่ายแตกต่างกัน l ยิ่งคุณเจอเคสยากเยอะ คุณจะยิ่งเก่งขึ้นอย่างที่หลายคนตั้งใจไว้ แต่การจะไปจุดนั้นได้คุณจะต้องพัฒนาตัวเอง ผ่านทรัพยากรความรู้ ทักษะ และเวลาที่ตัวเองมีอยู่ ณ ตอนนี้ให้ดีขึ้นซะก่อน
.
⭐️ การซักประวัติที่แม่นยำและมีระบบ และ การเปลี่ยนมุมมองแบบ Body chart ก็อาจจะทำให้คุณสามารถช่วยแก้ปัญหาเคสยาก ที่คุณตั้งใจจะรักษาให้หาย l รวมไปถึงเป็นการพัฒนาทักษะการตรวจรักษาของคุณได้ด้วย ถ้าคุณเริ่มลงมือทำมัน ตั้งแต่วันนี้ 🏁
.
📌สนใจเชิญสมัครทางลิ้งค์นี้ https://forms.gle/mLyWghsPmWjPtzf68
ℹ️ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : https://lin.ee/XVwopXV




Comments