top of page

THINK LIKE A PRO : Clinical Reasoning Perspective


ree


✅ Think like a pro, Improving your clinical reasoning

🧠 เพิ่มคุณภาพการตรวจรักษา จากระบบความคิด การให้เหตุผลทางคลินิก

.

#Storytime ถึง Physio ทุกท่าน

“ต่อให้มีดาบที่คมที่สุดก็อาจจะยังแพ้ยอดฝีมือที่ใช้มือเปล่า” Clinical reasoning คือทักษะพื้นฐานที่นักกายภาพ หลายคนควรต้องมีติดตัว เป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาตรวจคนไข้ก่อนที่จะเริ่มลงมือทำการรักษาเพื่อให้ผลออกมาดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยการจะพัฒนาทักษะนี้ ต้องอาศัยการฝึกฝนและประสบการณ์เป็นปีๆ

.

ในบทความนี้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่คุณหลงเข้ามาอ่าน แต่เป็นเพราะคุณอยากจะ ปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่างสำหรับการทำเคสของตัวเอง l มาดูกันว่า 3 หัวข้อย่อย ที่เป็นส่วนหนึ่งของคอร์ส Clinical Optimization จะทำให้คุณพัฒนาความคิดตัวเองยังไงได้บ้าง ติดตามในรูปต่อๆไปได้เลยครับ ❤️


———



🆙 คอร์ส Clinical Optimization : Assessment & Exercise เป็นหนึ่งในคอร์สที่ผมแนะนำสำหรับคุณ ไม่ว่าคุณจะใช้ทักษะอะไร หรือ เครื่องมือชิ้นไหนก็ตาม การเรียนครอสนี้จะช่วยให้คุณทำเคส ได้ดีมากขึ้นครับ

.

หากใครสนใจจะลงทะเบียนเรียนคอร์สเต็ม Clinical Optimization มาพบกัน

🗓วันอา.ที่ 19 และ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568 

เวลา 09.00 – 16.30 น. ผ่าน Zoom Meeting

.

✳️ราคา 1,980 บาท l ▶️ PTCEU= ประมาณ 12 คะแนน

✅ มีใบ Certificate และคลิปสอน ดูย้อนหลังได้ไม่จำกัดเวลาด้วยนะครับ ❤️

.

📌สนใจเชิญสมัครทางลิ้งค์นี้📌

.

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : https://lin.ee/XVwopXV นะครับ

ดูรายละเอียดเต็มได้ที่  : https://rebrand.ly/q4y8gma



ree

✅ History Taking System

ซักประวัติอย่างเป็นระบบ ทำให้เข้าใจปัญหาของเคส

.

ขั้นตอนแรกที่สำคัญในการรักษาเคสคนไข้ คือการซักประวัติ ในหลายๆครั้งเราอาจจะไม่พบต้นต่ออย่างที่ชัดเจน  นั้นอาจจะเป็นเพราะเรามีวิธีการถามที่ยังไม่เป็นระบบและตรงจุดมากเพียงพอ เมื่อเรารู้วิธีการจัดระเบียบ เรียบเรียงข้อมูลจะช่วยให้เราหาสร้างสมมุติฐาน และวางแผนการรักษาได้ดีขึ้น l ผมแนะนำ 8️⃣ หมวดคำถามที่ควรได้ข้อมูลจากเคส ➡️ ความสำคัญของแต่ละหมวดคำถาม

.

⭐️ สามารถเรียงลำดับการซักประวัติได้ ดังนี้ :

🅰️Chief Complaint ➡️ ปัญหาหลักที่เคสเข้ามาพบ

🅰️Aggravating / Easing sign ➡️ ใช้สำหรับการตรวจประเมินผลการรักษาก่อนหลัง

🅰️History ➡️ ประวัติปัจจุบัน ของอาการครั้งนี้

🅰️Past history ➡️ ประวัติอดีตที่อาจมีผลกับปัจจุบัน.

🅱️X-Ray / MRI result ➡️ ผลการตรวจพิเศษ และความเห็นแพทย์

🅱️Previous treatment ➡️ พิจารณารักษาที่เคยได้รับ และ ผลลัพธ์

🅱️Exercises / Workout ➡️ ดูการใช้กล้ามเนื้อ และทักษะการเคลื่อนไหว

🅱️Related Activity ➡️ กิจกรรมต่างๆที่มีผลต่ออาการ

.

หมายเหตุ 🅰️ เป็นข้อมูลที่ “มี” ควรรู้ในการแรกรับเคสใหม่ทุกครั้ง

🅱️ เป็นข้อมูลที่อาจจะ “ไม่มี” สำหรับในบางเคสได้

.

#คำแนะนำ หากเจอข้อมูลในหมวดไหนที่เป็นประโยชน์ หรือ Support ในการตั้งสมมุติฐาน สามารถถามเพื่อเจาะลึกข้อมูลเพิ่มเติมได้

.

📌สนใจเชิญสมัครทางลิ้งค์นี้ https://forms.gle/mLyWghsPmWjPtzf68

ℹ️ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : https://lin.ee/XVwopXV 

 



ree

✅ Body Chart Ideas

เข้าใจความเจ็บของผู้ป่วยให้มากกว่าที่เคยเป็น

.

ในการเก็บข้อมูลเคส เรามักจะมองหา 2 อย่างหลักๆ 1️⃣ อาการแสดง (Sign) ที่ได้จากการสังเกตเคส (Observation base)2️⃣ อาการ (Symptom) ที่ได้จากการสื่อสาร กับเคส (Communication base)

.

👉 Ideas ที่จะทำให้คุณระบุกล้ามเนื้อ / โครงสร้างได้แม่นยำมากขึ้นผ่าน Body Chart ของเคส นั้นก็คือ “การให้เคสเป็นคนระบายบริเวณที่ปวดเอง” l เพราะไม่มีใครเข้าใจ อาการความไม่สบาย ความเจ็บปวด หรือ บริเวณความกว้าง ได้ดีเท่ากับตัวเคสเอง l การทำแบบนี้ เราจะได้แผนภาพแสดงอาการที่แม่นยำมากกว่าการเป็นคนระบายบริเวณบาดเจ็บให้กับเคสด้วยตัวเอง

.

ℹ️ หากคุณมีความรู้ ความชำนาญเกี่ยวกับเรื่อง

  • Referral pain pattern

  • Anatomy Sling

  • Kinematics linkage

  • Myofascial line

ก็จะยิ่งช่วยทำให้เราเชื่อมโยงและเข้าใจอาการของเคสได้ดีขึ้น l ซึ่งแน่นอนเราเตรียมเนื้อหามาสอนคุณอย่างเข้มข้น ในคอร์สนี้เรียบร้อยแล้ว

.

👍 ในครั้งถัดไปเมื่อคุณพบกับเคสของคุณ ลองนำไอเดียนี้ปรับมุมมองเล็กๆในการสื่อสารกับเคส คุณจะเข้าใจอาการที่เขารู้สึกอยู่มากขึ้น และนั้นอาจจะทำให้การตรวจ การวางแผนการรักษาของเราตรงจุดมากขึ้น พัฒนาคุณภาพการตรวจรักษา ให้ดีขึ้นไปอีกขั้นได้ครับ

.

📌สนใจเชิญสมัครทางลิ้งค์นี้ https://forms.gle/mLyWghsPmWjPtzf68

ℹ️ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : https://lin.ee/XVwopXV 




ree

✅ Mechanism of injuries 

เข้าใจกระบวนการเกิดโรคและอาการของเคส อย่างแท้จริง

สิ่งนี้เปรียบเหมือนบทสรุป อาการของเคสที่เราได้มากจากการซักประวัติ และ การตรวจร่างกายอย่างละเอียด l เป็นสิ่งที่เราใช้ตอบตัวเอง ว่าการรักษาแบบนี้เราทำไปแล้วทำไมถึงดีขึ้น และ ใช้อธิบายให้เคสเข้าใจถึงต้นตอ สาเหตุการบาดเจ็บครั้งนี้ได้อย่างเข้าใจ

.

⚡️ทักษะนี้ไม่เรื่องง่าย l เชื่อว่าคุณมีประสบการณ์ทำเคส “ที่รู้สึกยาก รู้สึกว่ารักษาไปแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น” อะไรทำให้เคสนี้ถึงแตกต่างกับเคสก่อนๆที่เราทำ ทั้งที่การตรวจการรักษาของเรามันเคยได้ผลกับเคสแนวนี้มาตลอด?

.

👍 ข่าวดีคือสิ่งที่คุณเจออยู่ไม่ใช่เรื่องแปลก ในชีวิตการทำเคสของเรามีโอกาสเจออาการบาดเจ็บที่หลากหลาย และมีความยากง่ายแตกต่างกัน l ยิ่งคุณเจอเคสยากเยอะ คุณจะยิ่งเก่งขึ้นอย่างที่หลายคนตั้งใจไว้ แต่การจะไปจุดนั้นได้คุณจะต้องพัฒนาตัวเอง ผ่านทรัพยากรความรู้ ทักษะ และเวลาที่ตัวเองมีอยู่ ณ ตอนนี้ให้ดีขึ้นซะก่อน

.

⭐️ การซักประวัติที่แม่นยำและมีระบบ และ การเปลี่ยนมุมมองแบบ Body chart ก็อาจจะทำให้คุณสามารถช่วยแก้ปัญหาเคสยาก ที่คุณตั้งใจจะรักษาให้หาย l รวมไปถึงเป็นการพัฒนาทักษะการตรวจรักษาของคุณได้ด้วย ถ้าคุณเริ่มลงมือทำมัน ตั้งแต่วันนี้ 🏁

.

📌สนใจเชิญสมัครทางลิ้งค์นี้ https://forms.gle/mLyWghsPmWjPtzf68

ℹ️ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : https://lin.ee/XVwopXV 



 
 
 

Comments


Follow Us On Social Media For
Updates!!!
  • Facebook
  • Line
  • Instagram
  • TikTok

©2024 by Physio Showcase. Proudly created with Wix.com

bottom of page