🆕 ของดีจากคอร์ส “Clinical Optimization : Assessment & Exercises”

#ของดีจากคอร์ส : Introduction To

💎Clinical Optimization : Assessment & Exercises

คอร์สรวมไอเดียที่สำคัญ สำหรับนักกายภาพบำบัดคลินิกโดยเฉพาะ 

.

📥 จุดเริ่มต้นของคอร์สนี้มาจากคำถามที่ว่า “จุดเด่นในการทำคลินิกรักษาเคสของผมคืออะไร” หลังจากที่เป็นนักกายภาพมาแล้ว 8 ปี คำตอบที่ผมเลือกที่จะตอบในตอนนี้นั้นก็คือ “การตรวจและวิเคราะห์เคส” เป็นคำตอบที่ดูเรียบง่าย แต่ที่มาที่ไปนั้นไม่ได้มาง่ายๆอย่างที่คิด กว่าจะตกผลึก กว่าจะตรวจอย่างชำนาญ กว่าจะวิเคราะห์เคสได้ตรงจุด มันใช้ทรัพยากรใช้เวลาไม่น้อย

.

แล้วผมก็มีไอเดียขึ้นมาว่า “ถ้าเกิดเราย้อนเวลากลับไปบอกตัวเองได้” อยากส่งต่อความรู้และทักษะของตัวเองในตอนนี้ให้กับตัวเองตอนที่พึ่งทำงานใหม่ได้รู้ น่าจะทำให้ก้าวกระโดดได้ดีมากๆ l แต่แน่นอนว่ามันคงเป็นไปได้ยาก ณ ช่วงเวลานี้ สิ่งที่ผมทำได้ในอีกรูปแบบนึง นั้นคือการส่งต่อความรู้ ทักษะ ไอเดียและแนวคิดให้กับ “คุณ” ผู้อ่านแทน

.

#เนื้อหา ภายในคอร์สนี้จะมีของดีอะไร ที่คุณสามารถนำไปใช้ในได้บ้าง? หวังว่ามันจะช่วยให้คุณใช้เวลาลองผิดลองถูกน้อยลง ใช้เวลาไปดูแลเคสให้ดียิ่งขึ้น และสนุกกับการนำไอเดียไปประยุกต์ใช้นะครับ 

.

 ติดตามชมเนื้อหาสำคัญ ใน post ถัดได้เลยครับผม l หากใครสนใจจะลงทะเบียนเรียนคอร์สเต็ม มาพบกัน

.

🗓วันอาทิตย์ที่ 19 และ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568 

เวลา 09.00 – 16.30 น. ผ่าน Zoom Meeting

.

✳️ราคา 1,980 บาท

▶️ PTCEU= ประมาณ 12 คะแนน

✅ มีใบ Certificate และคลิปสอน ดูย้อนหลังได้ไม่จำกัดเวลาด้วยนะครับ ❤️

.

📌สนใจเชิญสมัครทางลิ้งค์นี้📌

https://forms.gle/mLyWghsPmWjPtzf68

.

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : https://lin.ee/XVwopXV นะครับ

🔴 Clinical Reasoning Perspective 

1️⃣ Essential History Taking

หนึ่งในหัวใจสำคัญและจุดเริ่มต้นของการทำเคส คือการซักประวัติ l การที่เรามีระบบในการตั้งคำถามที่ดี แบ่งหมวดหมู่คำถามให้ชัดเจน และ ถามเจาะลึกเรื่องราวที่เกี่ยวข้องจะเป็น หัวใจสำคัญของการตั้งสมมุติฐาน ที่มาของ อาการและการบาดเจ็บของเคส

.

2️⃣ Hypothesis & Clinical Decision

ตั้งสมมุติฐาน ออกมาเป็นข้อๆ ไม่ bias คิดฟันธงอาการของเคสตามความคิดของตัวเองในทันที | ใช้การตัดสินใจทางคลินิก ร่วมกับการตรวจเพื่อพิสูจน์สมมุติฐาน (Proving hypothesis) เพื่อลบความเป็นไปไม่ได้ออก และทำให้เราเห็นกลไกการบาดเจ็บได้ชัดขึ้น

.

3️⃣ Finding Mechanism Of Injuries

การเชื่อมโยงและเรียงลำดับอาการของเคส ทำให้เราเข้าใจกลไกในการเกิดโรคหรืออาการของเคสได้มากขึ้น | เป็นสิ่งสำคัญที่ควรก่อนลงมือรักษา และ ควรอธิบายให้เคสเข้าใจ เพื่อให้รูัวิธีปฏิบัติตัวที่ถูกต้องพร้อมป้องกันการเกิดซ้ำในอนาคต

.

🎙️ ถ้าความรู้และเทคนิคการรักษาเป็นอาวุธที่เรามีติดตัวไว้ “Clinical reasoning เปรียบเหมือนความคิดความสามารถของผู้ใช้อาวุธชิ้นนั้น“ ยิ่งเราฝึกฝนทำเคสบ่อยๆ มีระบบการคิดคำถาม -> ตั้งสมมุติฐาน -> กากลไกการบาดเจ็บ ได้ดีแค่ไหน เราจะยิ่งชำนาญในการทำเคสมากขึ่นเท่านั้น 

.

✅ ติดตามวิธีใช้ Clinical reasoning perspective พร้อมตัวอย่างเคสได้ในคอร์ส Clinical Optimization : Assessments & Exercise นะครับผม

.

📌สนใจเชิญสมัครทางลิ้งค์นี้ https://forms.gle/mLyWghsPmWjPtzf68

ℹ️ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : https://lin.ee/XVwopXV 

——————————————————————————————————

🟢 Observation & Palpation

1️⃣ Movement Sequences

หลายคนเมื่อมองการเคลื่อนไหวของคนที่ผิดปกติ มักจะมองออกว่ากำลังมีปัญหาอะไรบางอย่างเกิดขึ้น แต่ถ้าหากต้องการระบุปัญาออกมาเป็นข้อๆ พร้อมแก้ไขให้เห็นผลอย่างรวดเร็วแล้ว ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญที่สะสมมาหลายต่อหลายปีเลยครับ

.

2️⃣ Key Point Of Views

สำหรับนักกายภาพ เมื่อเรามองการเคลื่อนไหวของคน เรามักจะเผลอวิเคราะห์การเคลื่อนไหวไปในแง่มุมต่างๆโดยไม่รู้ตัวใช่ไหมครับ? | ถ้าเกิดเรานำเอาทักษะนี้มาขัดเกลา มีจุดสังเกตที่ทำให้มองง่ายขึ้น และเอามาเป็นเครื่องมือ เพื่อดูทิศทางของผลของการรักษา การสังเกตจะถือเป็นทักษะที่มีประโยชน์ อย่างมากทางคลินิก

.

3️⃣ Palpation Optimization 

อีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้รู้ว่าการเคลื่อนไหวนี้ใช้กล้ามเนื้ออะไร ก่อน-หลัง คือการคลำไปที่กล้ามเนื้อบริเวณนั้นโดยตรง สังเกตลำดับการขยับว่าเป็นไปตามธรรมชาติของการเคลื่อนไหวไหม | นอกจากนี้แต่ละโครงสร้างในร่างกายยังตอบสนองต่อการคลำแตกต่างกันออกไป เราสามารถนำทักษะการคลำ (palpation) มาประยุกต์ใช้ได้อีกมาก

.

✅ ฟังดูน่าสนุกแล้วใช่ไหมครับทักษะด้านการสังเกตและการคลำจะมีวิธีใช้ยังไง | ติตตามได้ในคอร์ส Clinical Optimization : Assessments & Exercise นะครับผม

.

📌สนใจเชิญสมัครทางลิ้งค์นี้ https://forms.gle/mLyWghsPmWjPtzf68

ℹ️ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : https://lin.ee/XVwopXV 

🟣 Essential Assessment Tools

1️⃣ Muscle Imbalance Testing

ปัญหากล้ามเนื้อทำงานไม่สมดุลกัน อาจเป็นต้นเหตุของอาการปวดหรือบาดเจ็บของเคสได้ l หากเรารู้วิธีตรวจสอบป้องกัน เช่น การตรวจกำลังกล้ามเนื้อแยกมัด (specific muscle power test) การตรวจความยาวกล้ามเนื้อแยกมัด (specific muscle length test) จะช่วยให้การวางแผนการรักษา และการป้องกันปัญหาในอนาคตเป็นเรื่องง่ายขึ้น

.

2️⃣ Special Testing Checklist 

เมื่อเราต้องวินิจฉัย (diagnosis) โรคหรืออาการทางคลินิก หนึ่งในการตรวจที่มีบทบาทสำคัญนั้นก็คือ Special test l แต่รู้หรือไม่ บางครั้ง Test ที่เราเลือกมาต้องพิจรณาองค์ประกอบด้าน ความไว (Sensitivity) และ ความจำเพาะ (Specificity) ให้เหมาะสมกับอาการด้วย จึงจะทำให้ผลการตรวจออกมาแม่นยำมากขึ้น

.

3️⃣ Body Chart Application Use

พวกเรามักจะมีหลักการใช้ Body Chart โดยซักประวัติ และเป็นผู้ที่ระบายบริเวณที่บาดเจ็บให้กับเคสเอง เป็นส่วนใหญ่ l ถ้าเราเปลี่ยนวิธีให้เคสเป็นผู้ที่ระบาย Body chart เองบ้างหล่ะ? ด้วยวิธีนี้เคสจะมีวิธีการสื่อสารบริเวณความเจ็บ ความปวดหรือบริเวณที่รู้สึกของร่างกายออกมาให้เราได้รู้ได้เข้าใจเพิ่มเติม เพราะ “ไม่มีใครรู้จักร่างกายเราดีเท่าตัวเราเอง”

.

✅ ในคอร์สนี้เรายังมีวิธีและไอเดียในการตรวจเพิ่มเติม เจาะลึกอีกมากมาย ถ้าคุณสนใจ | ติตตามได้ในคอร์ส Clinical Optimization : Assessments & Exercise นะครับผม

.

📌สนใจเชิญสมัครทางลิ้งค์นี้ https://forms.gle/mLyWghsPmWjPtzf68

ℹ️ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : https://lin.ee/XVwopXV 

——————————————————————————————————

🌐 Exercise Optimization

1️⃣ Rehabilitation Strategies

หลังจากรวบรวมข้อมูลจากการตรวจ เพื่อใช้ในการวางแผนในการฟื้นฟูสำหรับเคส l เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของเคส ไม่ว่าจะเป็น การกลับไปเล่นกีฬาฯ หรือ กลับไปใช้ชีวิตตาม life-style ที่ต้องการ เราสามารถร่วมกันออกแบบวาง flow ในการฟื้นฟูร่วมกับเคสได้ เพื่อให้แผนของเรานั้นไปในทิศทางที่แน่นอน

.

2️⃣ Specific Exercises Prescription

การออกกำลังกายนั้นมีหลากหลายชนิด Strengthening, Flexibility, Joint mobility, Stability ฯลฯ l การเลือกระดับความยากง่าย รวมไปถึงจำนวนครั้งและจำนวนเซตที่เหมาะสมนั้นมีความสำคัญ และส่งผลต่อการรักษาและฟื้นฟูเป็นอย่างมาก

.

3️⃣ Exercise Progression & Regression

เมื่อการออกกำลังกายที่เราแนะนำเคสนั้นมีความยากเกินไป หรือง่ายเกินไป การปรับท่าบริหารและออกกำลังกายนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำ l หลายท่านอาจติดปัญหาให้ท่าบริหารหนักไปในด้านในด้านหนึ่ง (เช่นเน้นไปที่การยืด) หรือ ท่าบริหารง่ายเกินไปสำหรับเคส (เช่นกดเข่าหรือนั่งเตะขา) ในบทนี้เรามีท่าบริหารมาแนะนำเพิ่มเติม ให้ไปปรับใช้ได้นะครับ

.

✅ สำหรับผู้ที่กำลังหาท่าออกกำลังกายใหม่ๆ ที่ทำแล้วได้ผลดี จำง่ายใช้ง่าย | ติตตามได้ในคอร์ส Clinical Optimization : Assessments & Exercise นะครับผม มีท่าบริหารดีๆรออยู่เป็น สิบๆ ท่าเลยนะครับ ‼️

.

📌สนใจเชิญสมัครทางลิ้งค์นี้ https://forms.gle/mLyWghsPmWjPtzf68

ℹ️ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : https://lin.ee/XVwopXV 

🔵 Anatomy Sling System

1️⃣ All 4 Sling components

เชื่อว่าหลายท่านน่าจะคุ้นเคยกับ Anatomy sling  หรือในชื่อ Sub-system หรือในชื่อ Spiral engine กันมาบ้าง l แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก ในคอร์สนี้เราจะพามาเจาะลึก การเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้อง อาการบาดเจ็บที่พบได้บ่อย ฯลฯ ของ...

• Anterior oblique sling

• Posterior obliques sling

• Lateral sling

• Deep longitudinal sling

.

2️⃣ All Sling Assessment & Testing

นอกจากรู้จักองค์ประกอบและความเชื่อมโยงของแต่ละ Sling แล้ว วิธีการตรวจทั้งเซต (เพื่อค้นหาความไม่สมดุลของระบบ) และการตรวจแยกทีส่วนประกอบ (เพื่อเจาะลึกถึงปัญหาที่เกิดขึ้น) ก็เป็นสาระสำคัญที่ควรรู้หากเราต้องการใช้ความเชื่อมโยงจาก Anatomy sling ในการตรวจรักษา และออกแบบท่าออกกำลังกายสำหรับเคส

.

3️⃣ Specific Sling Exercise

ถ้าการเลือกออกกำลังกายกล้าเนื้อมัดที่อ่อนแรงทีละมัดให้เหมาะสมนั้นไม่ท้าทายพอ เรามีการออกกำลังกายสำหรับทั้ง Sling ให้ตรงกับ Function ที่เคสต้องกลับไปใช้งานมาให้เป็นการท้าทายเพิ่มเติม l ทักษะการเคลื่อนไหวที่เป็นการฝึก (Training) และ กีฬาฯ (Sports) เป็นสิ่งที่เราสามารถใช้มุมมองความเชื่อมโยงผ่าน Anatomy sling มาปรับแก้ได้เป็นอย่างดีครับ

.

✅ เคสนี้ อาการแบบนี้ควรจะต้องเลือกมอง Sling ไหนเป็นพิเศษ? มีหลักการดูยังไง? | ติตตามได้ในคอร์ส Clinical Optimization : Assessments & Exercise นะครับผม มีท่าบริหารดีๆรออยู่เป็น สิบๆ ท่าเลยนะครับ ‼️

📌สนใจเชิญสมัครทางลิ้งค์นี้ https://forms.gle/mLyWghsPmWjPtzf68

ℹ️ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : https://lin.ee/XVwopXV 

——————————————————————————————————

🟠 Kinematics Linkage

1️⃣ The Domino Effect

เมื่อข้อต่อหนึ่งข้อมีปัญหาในการเคลื่อนไหว หรือมีท่าทางการวางตัวที่เปลี่ยนไป ร่างกายของเราจะปรับตัวหาทางชดเชยที่ง่ายที่สุด มาเพื่อทำงานทดแทนสิ่งที่ขาดหายไป l จึงเป็นที่มาของการทำงานทดแทน (Compensation) ที่เราพบเจอกับเคสได้บ่อยๆ l ปัญหาเหล่านี้อาจจะเกิดต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ แล้วกระทบหลายข้อตามมา เราจะมั่นใจได้ยังไงว่าบริเวณที่เรากำลังโฟกัสรักษาอยู่นั้น เป็นต้นเหตุของอาการจริงๆ?

.

2️⃣ Spinal & Peripheral Deviations

ผลกระทบจากการเลื่อนของข้อต่อแต่ละส่วน สามารถแบ่งออกมาเป็น 3 ส่วนย่อยได้แก่

-Spinal deviaitons : การเคลื่อนของแนวกระดูกสันหลัง

-Lower limbs deviation : การเคลื่อนของรยางค์ส่วนล่าง

-Upper limbs deviation : การเคลื่อนของรยางค์ส่วนบน

ซึ่งการปรับแก้ไขตามแต่ละส่วน ก็อาจจะสามารถส่งผลกับบริเวณที่เคสกำลังมีปัญหาอยู่ได้ ยกตัวอย่างเช่น การปรับการลงน้ำหนักเท้า ที่ช่วยลดแรงกดต่อข้อเข่าด้านในได้เป็นต้น

.

3️⃣ Key point adjustment areas

โดย 3 บริเวณข้อต่อที่สามารถนำมาปรับ เพื่อแก้ไขการเคลื่อนของบริเวณต่างๆได้แบบมีประสิทธิภาพสูง ได้แก่ บริเวณสะบัก เชิงกราน และ ข้อเท้า l เราจะมาเรียนรู้การเคลื่อนของ 3 บริเวณนี้ที่ส่งผลกระทบต่อทั้งในแง่ของ Posture และ Movement กันนะครับ

.

✅ Kinematics linkage มีข้อบ่งชี้อะไรให้นำมาเลือกใช้ประกอบกับการทำเคส ควรจะเริ่มมองจากส่วนไหน ท่าบริหารอะไรถึงจะปรับแก้ให้อยู่ได้นานและไม่กลับมาเป็นใหม่ | ติตตามได้ในคอร์ส Clinical Optimization : Assessments & Exercise นะครับผม

.

📌สนใจเชิญสมัครทางลิ้งค์นี้ https://forms.gle/mLyWghsPmWjPtzf68

ℹ️ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : https://lin.ee/XVwopXV 

_____

ตัวอย่างสไลด์